ปัจจุบันวิดีโอได้กลายเป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่ทรงพลัง ดูได้จากทราฟฟิกบนอินเทอร์เน็ตมากกว่า 80% มาจากคอนเทนต์วิดีโอ ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความนิยมเนื้อหาในรูปแบบวิดีโอ ด้วยเหตุนี้ การทำ SEO สำหรับวิดีโอจึงเป็นความจำเป็นสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creator) ที่ต้องการสร้างการมองเห็นในโลกออนไลน์
การทำให้วิดีโอปรากฏใน Google เสิร์ชเอ็นจิ้น (Search Engine) ระดับโลก จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้คอนเทนต์ของเราเข้าถึงผู้ชมทั่วโลก ไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มโอกาสในการค้นพบ แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่กว่า 80% ของทราฟฟิกบนอินเทอร์เน็ตที่หมุนเวียนอยู่ในคอนเทนต์วิดีโอ
ในบทความนี้ดาต้าเซ็ตจะนำเสนอข้อมูลและเทคนิคล่าสุดจากงาน Search Central Live Bangkok 2024 ซึ่งจัดโดยกูเกิล (Google) พร้อมทั้งเผยเคล็ดลับที่จะทำให้คอนเทนต์วิดีโอของเราโดดเด่นท่ามกลางข้อมูลมหาศาล
Google กำลังทุ่มเทพัฒนาระบบค้นหาวิดีโอใน 3 ด้านหลัก
1) The right video: การค้นหาวิดีโอที่ใช่ ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ มีคุณภาพ และมีความหลากหลาย
2) The right parts of the video: การเน้นส่วนสำคัญของวิดีโอ โดย Google กำลังพัฒนาระบบที่ค้นหาเฉพาะจุดในวิดีโอ สามารถระบุและแสดงส่วนสำคัญของวิดีโอที่ทำให้ตอบคำถามที่ผู้ใช้งานต้องการได้
3) More than what they asked for: การปรับรูปแบบการนำเสนอ โดยค้นหาวิธีแสดงผลวิดีโอในรูปแบบที่เหมาะสมและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานให้ดียิ่งขึ้น
เมื่อเราค้นหาบางสิ่งใน Google เราจะเห็นวิดีโอปรากฏที่ไหนได้บ้าง?
Google จัดทำดัชนีวิดีโอจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วโลกและทุกครั้งเมื่อเราเสิร์ชหรือค้นหาข้อมูล ผลลัพธ์จะปรากฎในหลาย ๆ ที่บน Google ดังนี้
1) หน้าผลการค้นหาหลัก วิดีโอจะแสดงปนกับผลการค้นหาทั่วไป
2) โหมดวิดีโอ ส่วนที่แสดงเฉพาะผลการค้นหาวิดีโอ
3) Discover ฟีเจอร์ Google Discover ที่แนะนำเนื้อหาตามความสนใจของผู้ใช้งานแต่ละคน ซึ่งรวมถึงวิดีโอด้วย
การทำให้วิดีโอของเราปรากฏบน Google เป็นโอกาสดีในการเพิ่มการมองเห็นและดึงดูดผู้ชม โดยปกติ Google จะทำการ Crawl (Crawling) และจัดทำดัชนี (Indexing) วิดีโอโดยอัตโนมัติ แต่เราสามารถช่วยให้ Google เข้าใจวิดีโอของเราได้ดียิ่งขึ้น ดังนี้
1) ใช้ Structure data อธิบายเนื้อหาวิดีโอเพื่อให้ Google เข้าใจและแสดงผลในการค้นหาที่เกี่ยวข้อง
2) สร้างหน้าเฉพาะสำหรับวิดีโอ พร้อมทั้งทำ Sitemap สำหรับวิดีโอเพื่อให้ Google ค้นพบได้ง่ายขึ้น
3) อนุญาตให้ Google เข้าถึงเนื้อหา และดึงข้อมูลไฟล์เนื้อหาวิดีโอ เพื่อให้สามารถทำดัชนี และแสดงในผลการค้นหา
4) ใช้ Key Moments ระบุช่วงสำคัญในวิดีโอ หรือใช้ SeekToAction markup เพื่อให้ Google แสดงจุดสำคัญของวิดีโอในผลการค้นหา
การทำตามขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสและประสิทธิภาพของวิดีโอในการปรากฏบน Google ทำให้ผู้ชมสามารถค้นพบเนื้อหาของเราได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นนักการตลาด คอนเทนต์ครีเอเตอร์ หรือเจ้าของธุรกิจ การเข้าใจและนำ SEO สำหรับวิดีโอไปใช้จะช่วยเพิ่มการมองเห็นและการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น แต่สิ่งที่ Google เน้นย้ำ คือ คุณภาพของคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้วิดีโอของเราติดอันดับสูงใน Google
Editorial Team