การเติบโตของวงการครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ในประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญ จากผลการศึกษาล่าสุดของ Tellscore ร่วมกับ FutureTales LAB by MQDC ที่นำเสนอในงาน THAILAND INFLUENCER AWARDS 2024 ได้เผยให้เห็นภาพอนาคตที่น่าสนใจของวงการนี้ในอีก 10 ปีข้างหน้า ผ่านการวิเคราะห์ใน 6 มิติสำคัญ
โอกาสและความท้าทายของอุตสาหกรรม
วงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ด้วยการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 45,000 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ตาม
อุตสาหกรรมนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายสำคัญในเรื่องของการนิยามและการยอมรับในบริบทของสื่อมวลชน การขาดความชัดเจนในนิยามของ "สื่อคอนเทนต์ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์" ส่งผลต่อการพัฒนาของวงการโดยรวม
การก้าวข้ามความท้าทายนี้จำเป็นต้องอาศัยการกำหนดนิยามที่ชัดเจน พร้อมทั้งสร้างกลไกที่เชื่อมโยงกับสื่อมวลชนกระแสหลัก ตลอดจนการพัฒนาระบบการกำกับดูแลที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ที่มีคุณภาพ สิ่งเหล่านี้จะช่วยยกระดับบทบาทของสื่อรูปแบบใหม่นี้ให้มีความชัดเจนและเป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้น
มิติที่ 1: ด้านสังคม (Social Dimension)
การเปลี่ยนแปลงทางสังคมในอนาคตจะเกิดขึ้นในหลายมิติที่สำคัญ:
The Impact of Creator Knowledge Sharing on Educational Institutions
ครีเอเตอร์กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าของการศึกษาด้วยการแบ่งปันความรู้ในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งวิดีโอการสอน สารคดี และบทความดิจิทัล การเข้าถึงความรู้จะไม่จำกัดอยู่แค่ในสถาบันการศึกษา แต่เปิดโอกาสให้ทุกคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสามารถเป็นได้ทั้งผู้เรียนและผู้สร้างความรู้
Digital Well-being for Audiences and Creators
สังคมกำลังมองหาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตและการทำงานกับการลดเวลาหน้าจอ โดยคนไทยใช้เวลาหน้าจอเฉลี่ยถึง 7 ชั่วโมง 58 นาทีต่อวัน ขณะที่ 70% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิต
New Subculture via Niche Content
แพลตฟอร์มเฉพาะทางอย่าง Reddit, Discord และ Roblox กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ทางสังคม โดย 88% ของ Gen Z ทั่วโลกยอมรับว่าชุมชนย่อยเหล่านี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อชีวิตของพวกเขา กลุ่มคนที่มีความสนใจ แนวคิด และงานอดิเรกคล้ายกันสามารถรวมตัวกันสร้างวัฒนธรรมย่อยของตนเอง
User-Generated Content Dominance
User-Generated Content กลายเป็นพลังสำคัญในโลกดิจิทัล สามารถกระตุ้นการซื้อสินค้าและบริการได้มากกว่าคอนเทนต์จากแบรนด์ถึง 21% โดยในปี 2567 การตลาดออนไลน์กว่า 62% พึ่งพาคอนเทนต์จากผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย
Combating Disinformation and Fake News
การแพร่กระจายของข่าวปลอมและข้อมูลผิดๆ เป็นความท้าทายสำคัญ โดย 64% ของผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ทั่วโลกได้รับข่าวปลอมอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์ การสร้างความน่าเชื่อถือและการตรวจสอบข้อมูลจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับครีเอเตอร์
Human-AI Interactions in Building Intimacy & The Role of Content
ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และ AI จะพัฒนาจากการเป็นเพียงเครื่องมือสู่การเป็นเพื่อน ครู หรือแม้แต่สมาชิกในครอบครัว คอนเทนต์จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ AI ผ่านนวัตกรรมด้านภาษาและคอนเทนต์เฉพาะบุคคล
มิติที่ 2: ด้านเทคโนโลยี (Technological Dimension)
เทคโนโลยี AI สามารถสร้างคอนเทนต์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งรูปภาพ วิดีโอ และดนตรี ช่วยให้กระบวนการสร้างคอนเทนต์เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในช่วงปี 2565-2566 มีการผลิตภาพด้วย AI ทั่วโลกมากกว่า 1.5 หมื่นล้านภาพ ประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาคือการละเมิดลิขสิทธิ์ ความโปร่งใสในการระบุว่าคอนเทนต์ผลิตโดย AI และจรรยาบรรณด้าน AI
มิติที่ 3: ด้านเศรษฐกิจ (Economic Dimension)
การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์เป็นกลยุทธ์สำคัญในการทำธุรกิจและสื่อสารกับผู้บริโภค โดยข้อมูลปี 2567 ระบุว่ามูลค่าตลาดทั่วโลกสูงถึง 9 ล้านล้านบาท และ 69% ของแบรนด์เพิ่มงบประมาณการตลาดในช่องทางนี้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เทคโนโลยีบล็อกเชนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในการจัดเก็บ เผยแพร่ และควบคุมลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ด้วยการแปลงคอนเทนต์เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อสร้างความโปร่งใสและความปลอดภัยในวงการสื่อ โฆษณา และอุตสาหกรรมบันเทิง
มิติที่ 4: ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Dimension)
ความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นที่ไม่อาจมองข้าม การผลิตคอนเทนต์ดิจิทัลมีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 2.1-3.9% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด จากการใช้ซีพียู คอมพิวเตอร์ ระบบคลาวด์ การตัดต่อ และการใช้อินเทอร์เน็ต ส่งผลให้การผลิตคอนเทนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ครีเอเตอร์ต้องคำนึงถึง
มิติที่ 5: ด้านการเมือง (Political Dimension)
บทบาทภาครัฐและผลกระทบจากอัลกอริทึมโซเชียลมีเดีย
ภาครัฐจำเป็นต้องสนับสนุนให้คอนเทนต์ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์เป็นวิชาชีพที่ได้รับการยอมรับ ทั้งด้านภาษีและสวัสดิการ พร้อมจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลและออก พ.ร.บ. คุ้มครองสื่อครีเอเตอร์ ให้สอดคล้องกับบทบาทสื่อดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น
ในขณะที่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใช้อัลกอริทึมเพื่อเพิ่มเวลาการใช้งานของผู้ใช้ ด้วยการนำเสนอคอนเทนต์ที่เน้นหลักจิตวิทยา ทั้งความขบขัน ความอยากรู้อยากเห็น ความกลัว และความเกลียดชัง ทำให้ครีเอเตอร์ต้องปรับเนื้อหาตามอัลกอริทึม โดยนโยบายด้านจริยธรรมการนำเสนอคอนเทนต์กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินคุณภาพและความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม
มิติที่ 6: ด้านคุณค่า (Value Dimension)
ความโปร่งใสและความเป็นส่วนตัวในยุคคอนเทนต์ดิจิทัล
การปกป้องข้อมูลส่วนตัวในวงการคอนเทนต์ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยครีเอเตอร์ต้องใช้ข้อมูลอย่างถูกต้องและให้ความรู้แก่ผู้ชม ผู้บริโภคต้องรู้จักปกป้องข้อมูลตนเองและสนับสนุนครีเอเตอร์ที่มีจริยธรรม ส่วนแพลตฟอร์มต้องโปร่งใสในการจัดการข้อมูลของทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Privacy International ชี้ว่า 80% ของครีเอเตอร์รู้สึกว่าถูกละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการที่แพลตฟอร์มนำข้อมูลไปใช้เชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังต้องการความโปร่งใสในการสร้างรายได้ของครีเอเตอร์ ทั้งแหล่งที่มาของข้อมูล การใช้ AI ในการผลิตคอนเทนต์ และการเปิดเผยการสนับสนุนจากแบรนด์ ซึ่งไม่เพียงสร้างความไว้วางใจ แต่ยังสะท้อนถึงความรับผิดชอบและจริยธรรมของครีเอเตอร์ด้วย
การเปลี่ยนแปลงผ่านทั้ง 6 มิตินี้ สะท้อนให้เห็นว่าวงการครีเอเตอร์ไทยกำลังเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งการสร้างคอนเทนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การปรับตัวตามกฎระเบียบภาครัฐและอัลกอริทึมของแพลตฟอร์ม รวมถึงการรักษาความโปร่งใสและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ครีเอเตอร์จึงต้องพัฒนาทั้งทักษะการผลิตคอนเทนต์และจริยธรรมควบคู่กันไป เพื่อสร้างระบบนิเวศคอนเทนต์ที่ยั่งยืนในอนาคต
บทความนี้อ้างอิงข้อมูลจากงานวิจัย "FORESIGHT STUDY on FUTURES OF CONTENT CREATORS in 2035, THAILAND" โดย Tellscore และ FutureTales LAB by MQDC ซึ่งจะเผยแพร่ฉบับสมบูรณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568
Editorial Team