ประวัติศาสตร์หน้าใหม่! กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ครั้งแรกในไทย คู่รักแห่จดทะเบียนคึกคัก
23 ม.ค. 68 – วันแรกของการบังคับใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม คู่รัก LGBTQIA+ จำนวนมากเดินทางมาจดทะเบียนสมรสที่สำนักงานเขตและที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่เขตบางรักและห้างสยามพารากอนที่มีคู่รักแห่มาจนต้องปิดรับคิวแบบ Walk-in
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นี่เป็นชัยชนะหลังการต่อสู้มากว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียนและประเทศที่ 3 ในเอเชียที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาคประชาชน LGBTQIA+ ที่ร่วมผลักดันจนสำเร็จ
กฎหมายฉบับนี้ไม่เพียงรับรองสิทธิการสมรสเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงการยอมรับความหลากหลายทางเพศ สร้างความเท่าเทียม และส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะประเทศที่เคารพสิทธิมนุษยชนในระดับนานาชาติ
Agoda พูดถึง "สมรสเท่าเทียม" หนุนการท่องเที่ยวสีรุ้ง
อโกด้า (Agoda) ผู้ให้บริการสำรองห้องพักทางออนไลน์ คาดการณ์ว่า กฎหมายนี้จะเป็นปัจจัยสนับสนุน “การท่องเที่ยวสีรุ้ง” ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 4 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้ประมาณ 68,000 ล้านบาท (คำนวณจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 34 บาท/ดอลลาร์) หรือ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อโกด้า ระบุว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะช่วยสร้างงานเต็มเวลากว่า 152,000 ตำแหน่ง และหนุน GDP ไทยให้เติบโต 0.3% ขณะที่ตลาดท่องเที่ยว LGBTQ ระดับโลกมีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ทั้งยังมองว่าหลายจังหวัดของไทยมีศักยภาพสามารถก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการจัดงานแต่ง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมการจัดงานแต่งงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น การโรงแรมและการจัดเลี้ยง เป็นต้น