ช้อปลดหย่อนภาษีปี 67 เริ่มแล้ว มาตรการ Easy E-Receipt ซื้อสินค้าหรือบริการเพื่อลดหย่อนภาษีสูงสุด 50,000 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึง 15 ก.พ. 67 หลายคนอยากใช้สิทธิแต่ไม่รู้ข้อมูล ที่สำคัญไม่รู้ว่าร้านค้าที่ซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ๆ จะออกหลักฐานใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax invoice) หรือ ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ให้ได้ตามที่กรมสรรพากรกำหนดหรือไม่ และที่ควรรู้ "ลดหย่อนได้เท่าไรขึ้นกับอัตราภาษีของแต่ละคน"
ใครบ้าง? ใช้สิทธิประโยชน์ตามมาตรการ Easy E-Receipt
บุคคลธรรมดาที่มีเงินเดือน หรือ เงินได้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาท จากร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 โดยจะต้องมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax invoice) ซึ่งรวมถึง e-Tax invoice by Time Stamp ด้วย หรือ ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ตามระบบของกรมสรรพากร
เช็คก่อนซื้อ ร้านไหนออก e-Tax invoice ให้ได้
ไม่ใช่ทุกร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จะสามารถออกหลักฐานเป็น e-Tax invoice ให้ได้ ดังนั้นก่อนซื้อสินค้าหรือใช้บริการ ควรเช็คกับร้านค้าให้แน่ใจก่อน หรือ สังเกตร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ Easy E-Receipt โดย e-Tax invoice ต้องระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของเราซึ่งเป็นผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการด้วย
นอกจากนี้ โครงการลดหย่อนภาษีดังกล่าวยังรวมถึงการซื้อหนังสือ หนังสือพิมพ์ และ นิตยสารทั้งในรูปแบบปกติและในรูปแบบของ E-book สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งได้ลงทะเบียนกับกรมพัฒนาชุมชน แม้ไม่ได้เป็นผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ถ้าสามารถออกใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Receipt ก็คือใช้ได้ โดยต้องระบุชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร หรือ เลขประจำตัวประชาชน ของเราซึ่งเป็นผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการไว้ด้วย
ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการที่ออก e-Tax invoice/e-Receipt ได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร โดยเข้าไปค้นหาด้วยชื่อร้านค้า หรือ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร คลิกที่นี่
และนี่คือรายชื่อร้านค้าและผู้ประกอบการส่วนหนึ่งที่สามารถออกหลักฐาน e-Tax invoice หรือ e-Receipt ให้ได้ตามที่ปรากฎบนข้อมูลของเว็บไซต์กรมสรรพากร
กลุ่มห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และซุปเปอร์มาร์เก็ต อาทิ เดอะมอลล์ กรุ๊ป, ไอคอนสยาม, เอ็มโพเรียม, เอ็มควอเทียร์, เอ็มสเฟียร์, สยามพารากอน, Gourmet Market, เครือเซ็นทรัล, เอสพลานาด, Tops Supermarket, เมกา บางนา, Power Buy, SuperSports, OfficeMate, ไทวัสดุ, บิ๊กซี, โลตัสส์, เซเว่น-อีเลฟเว่น, ยูนิโคล่, โฮมโปร, วัตสัน, วีรสุ, อิเกีย, ซีเอ็ด, นายอินทร์, B2S
กลุ่มร้านอาหาร อาทิ The Pizza Company, Shabushi, Oishi Grand, Oishi Eaterium, Oishi Buffet, Nikuya, Oishi Ramen, Kakashi, Hou Yuu, Sakae, Oishi Biztoro, Shabu by Oishi, Oishi Delivery, Sukishi, Vista Cafe, บุญตงกี่ เฉพาะบางสาขา, MX Bakery, Cafe Chilli, Swensen’s, บาร์บีคิว พลาซ่า, Starbucks, Sizzler, Burger King, มิสเตอร์ โดนัท, เคเอฟซี, อานตี้ แอนส์, เปปเปอร์ ลันช์, ชาบูตง ราเมน, โคล สโตน ครีมเมอรี่, เทอเรสซ์ เดอ บางกอก, โยชิโนยะ, โอโตยะ, เทนยะ, คัตสึยะ, อร่อยดี, เกาลูน, Salad Factory, บราวน์, ส้มตำนัว, อาริกาโตะ, ราเมน คาเกทสึ อาราชิ, คีอานิ, 1312 FOODHUNT DELIVERY, บอนชอน ยกเว้นสาขาในท่าอากาศยาน, ร้านแบล็กแคนยอน, ZEN, On the table, AKA, Sushi CYU & Carnival yakiniku, Tetsu, The Coffee Club, Red Lobster, Kamu Tea, S&P, เดอ ตำมั่ว เฉพาะสาขา Terminal 21 Pattaya
ร้านตำมั่ว เฉพาะสาขา บิ๊กซี ราชดำริ / ปตท.บางพูน / โรบินสันเพชรบุรี, / บิ๊กซีปทุมธานี / โลตัสปากช่อง / เมกกะบางนา / บิ๊กซี นครปฐม / บิ๊กซี พระราม4 / สามย่านมิตรทาวน์ / ปตท.รัชดา-รามอินทรา / ปตท. เจษฎาบดินทร์
ร้านลาวญวน เข้าร่วมเฉพาะสาขา เซ็นทรัล พระราม 3 / เซ็นทรัล โคราช / เซ็นทรัล พระราม 2 / เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า / เซ็นทรัล ระยอง / เซ็นทรัล ศรีราชา / เซ็นทรัลอุดรธานี / เซ็นทรัลพัทยาบีส / ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ / เซ็นทรัลนครสวรรค์ / เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ
ทั้งนี้ ควรตรวจสอบกับร้านค้าก่อนซื้อสินค้าและบริการ เนื่องจากอาจมีบางสาขาไม่เข้าร่วมโครงการ
ใช้สิทธิ Easy e-Receipt ประหยัดภาษีได้เท่าไร
ประหยัดภาษีได้เท่าไร ขึ้นกับอัตราฐานภาษีของแต่ละคนซึ่งปัจจุบันมีอัตราภาษีตั้งแต่ 5% – 35% ดังนั้นสำหรับมาตรการนี้ผู้มีเงินได้ที่ต้องเสียภาษีในอัตราสูงสุดคือ 35% ได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้มากที่สุด กรณีซื้อสินค้าและบริการเต็มจำนวน 50,000 บาท จะประหยัดภาษีไปได้ถึง 17,500 บาท ในขณะที่ผู้ที่เสียภาษีในอัตราต่ำสุดคือ 5% ถ้าซื้อสินค้าและบริการในจำนวนเงินเท่ากันจะประหยัดภาษีไปได้เพียง 2,500 บาทเท่านั้น
ข้อมูลอ้างอิง: เว็บไซต์กรมสรรพากร, เฟซบุ๊ก Zen japanese Restaurant, เฟซบุ๊ก Central Restaurants Group, เฟซบุ๊ก Oishi Restaurant Thailand