ชาวโซเซียลมีเดียตื่นตระหนกประเด็นการพบสารซีเซียม-137 ปะปนกับฝุ่นแดงในโรงหลอมแห่งหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี เพราะซีเซียม-137 ถือเป็นวัสดุกัมมันตรังสีที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์เนื่องจากเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง หลังจากนักวิชาการหลายรายออกมาแสดงความเป็นห่วงการฟุ้งกระจายหากโลหะปนเปื้อนถูกส่งเข้าเตาหลอม ซึ่งจนถึงขณะนี้ทางจังหวัดปราจีนบุรีและสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติระบุว่ายังไม่พบโลหะต้นตอของฝุ่นแดง แต่ยืนยันว่าได้สั่งปิดโรงงานแล้วและโรงหลอมดังกล่าวเป็นระบบปิด
DXT360 แพลตฟอร์มติดตามข่าวสารและเสียงของผู้บริโภค (Social Listening) ของบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้รวบรวมการพูดถึงซีเซียม-137 ตลอดทั้งวันนี้ในสื่อโซเซียลมีเดียทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตราแกรม โดยพบว่ามียอดโพสต์ ทวีตและค่าปฏิสัมพันธ์ (Engagement) เกิดขึ้นสูงถึง 7 แสนครั้ง
ชาวเน็ตส่วนใหญ่ที่คอมเม้นท์ ต้องการให้มีผู้ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์การรั่วไหลที่เกิดขึ้น และต้องการรู้สาเหตุที่ทำให้ซีเซียม-137 หายไป โดยส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าการแถลงชี้แจงของทางการว่าฝุ่นแดงที่ปนเปื้อนซีเซียม-137 ถูกเก็บไว้ในระบบปิดจริง นอกจากนั้นยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมว่าทางการจะจัดการกับฝุ่นที่อาจฟุ้งกระจายอย่างไร
นอกจากนั้น ยังต้องการทราบคุณสมบัติและพิษของสารสารซีเซียม-137 ว่ามีอันตรายอย่างไร หากได้รับสารดังกล่าวเข้าไปร่างกายในระดับใดจึงจะเป็นอันตราย รวมถึงจะมีโอกาสหลุดลอยออกมาปนเปื้อนกับอากาศและน้ำหรือไม่ รวมทั้งมีความกังวลว่าปัญหาดังกล่าวอาจจะลุกลามไปถึงถูกแบนสินค้าจากไทย และห้ามคนเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย จากนั้นจะทำให้เศรษฐกิจพัง
ยังตอบได้ยากว่าจะเกิดอันตรายอะไรบ้าง เพราะมีเหตุปัจจัยหลายอย่าง ทั้งปริมาณของสาร และลักษณะการหลอมโลหะ แต่คงไม่ถึงขั้นเกิดเหตุระเบิด แบบระเบิดนิวเคลียร์พลูโตเนียม-ยูเรเนียม
ดร. เจษฎา
รศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีว่าจะเกิดอะไรอันตรายขึ้นหรือไม่ถ้าซีเซียม-137 ถูกหลอมไปแล้ว โดยระบุว่ายังตอบได้ยากว่าจะเกิดอันตรายอะไรบ้าง เพราะมีเหตุปัจจัยหลายอย่าง ทั้งปริมาณของสาร และลักษณะการหลอมโลหะ แต่คงไม่ถึงขั้นเกิดเหตุระเบิด แบบระเบิดนิวเคลียร์พลูโตเนียม-ยูเรเนียม
อย่างไรก็ตาม หากซีเซียม-137 ถูกเผาหลอมรวมตัวกับโลหะอื่นๆ จนกลายเป็นโลหะผสมที่มีกัมมันตภาพรังสี ก็บอกได้ยากว่าจะยังคงมีความสามารถในการสลายตัวให้รังสีเบต้าและรังสีแกมม่ามากเท่าเดิมหรือไม่ คงต้องให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันตินำเครื่องวัดรังสีมาตรวจสอบ
แต่ที่น่าห่วงคือ การหลอมโลหะก็ย่อมจะเกิดการประทุของวัสดุที่เอามาเข้าเตาหลอม ซึ่งสามารถที่จะปลดปล่อยตัวสารซีเซียม-137 ให้กระเด็นฟุ้งกระจายออกมาจากเตาหลอมไปสู่ผู้คนที่อยู่โดยรอบในโรงงานจนเกิดอันตรายจากการรับเข้าไปในร่างกาย เช่น ผ่านทางการหายใจ หรือการสัมผัส หรือเปรอะเปื้อนเสื้อผ้า)