ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค ผู้เชี่ยวชาญจาก 7 องค์กรชั้นนำมาร่วมแบ่งปันมุมมองถึงทิศทางวงการสื่อไทยในปี 2568

“สื่อดั้งเดิมจะยังไม่หายไปใน 5 ปี แต่จะมีคนดูและเม็ดเงินที่ลดลง” ผศ.ดร.สกุลศรี ศรีสารคาม รองคณบดีด้านวิชาการ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความเห็น พร้อมชี้ว่า สื่อต้องพัฒนาแพลตฟอร์มของตัวเองเพื่อลดการพึ่งพาโซเชียลมีเดีย

สอดคล้องกับมุมมองของ คุณนวมินทร์ ประสพเนตร ประธานกรรมการ บมจ.โมโน เน็กซ์ ที่มองว่า ทีวีดิจิทัลอยู่ในช่วงขาลง จึงได้ปรับทิศทางสู่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง MONOMAX เพื่อรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

ด้านคุณอคิรากร อิกิติสิริ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ Viu ประเทศไทย มองว่า ตลาดสตรีมมิ่งปี 2568 จะแข่งขันรุนแรงขึ้น เนื่องจากมีผู้ให้บริการรายใหม่เข้ามาพร้อมคอนเทนต์ที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด

นอกจากการแข่งขันในตลาดสตรีมมิ่ง อีกหนึ่งความท้าทายคือบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ คุณศิวัฒน์ วิลาสศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการ AnyMind Group ประเทศไทยและฟิลิปปินส์ เผยว่า การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ไทยกำลังอยู่ใน Evolution ที่ 3 ซึ่งเป็นยุคของนาโนและไมโครอินฟลูเอนเซอร์

ด้านสื่อกระแสหลักเองก็ปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลง คุณธัญญารัตน์ ถาม่อย ผู้ประกาศข่าวพีพีทีวี เล่าว่า สถานีฯ สนับสนุนให้นักข่าวใช้โซเชียลมีเดียเพื่อสื่อสารกับผู้ชม ขณะที่คุณขจร เจียรนัยพานิชย์ Managing Director และ Editor in Chief ผู้ก่อตั้ง RainMaker/Mango Zero ชี้ให้เห็นการเติบโตของติ๊กต๊อกที่ก้าวขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลคอมเมิร์ซชั้นนำ

ส่วนทิศทางของพอดคาสต์ คุณโสภิต หวังวิวัฒนา ผู้จัดการฝ่ายสื่อเสียง สำนักสื่อดิจิทัล ไทยพีบีเอสพอดคาสต์ มองว่า จะมีการพัฒนาไปสู่รูปแบบวิดีโอพอดคาสต์มากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคนิยม “ดูและฟัง” มากกว่า “ฟัง” เพียงอย่างเดียว

จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญทั้ง 7 ท่าน สะท้อนให้เห็นว่า สื่อไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ โดยกุญแจสู่ความสำเร็จคือความสามารถในการปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

อ่านบทสัมภาษณ์แนวโน้มสื่อไทยปี 2568 กับ กูรูทั้ง 7 ได้ที่ >> https://www.dataxet.co/media-landscape/2025-th/thai-media-trends